รับ กระทืบ คน — ทำร้ายร่างกายคนแก่ วัยรุ่น 4 คน กระทืบลุง ที่ วัดเขมาภิรตาราม ล่าสุด ต้องมาขอขมา
ธีรเดช กล่าวว่า นายณัฐพลเป็นนักเลงสัตหีบ ฉายา 'ช้าง สัตหีบ' ก่อนหน้านี้ได้ยกพวกก่อเหตุทำร้ายร่างกาย นายสมศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) จนเสียชีวิต สาเหตุเกิดจากนั่งดื่มสุราภายในร้านอาหารแล้วผู้ตายแค่มองหน้า โดยทำร้ายร่างกายด้วยการกระทืบจนถึงแก่ความตาย เหตุเกิดเมื่อปี 2553 พล. ธีรเดช กล่าวต่อว่า หลังก่อเหตุนายณัฐพลได้หลบหนีไปอยู่กับพรรคพวกนักเลงด้วยกันหลายจุดทางพื้นที่ภาคอีสาน จ. ขอนแก่น, อุดรธานี, และนครราชสีมา โดยหาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นผู้รับเหมา นานกว่า 13 ปี และเหลือแค่ 2 ปี จะขาดอายุความ จนมาถููกจับกุม ก่อนนำส่งสภ. หนองปรือ จ. ชลบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พล. ธีรเดช กล่าวอีกว่า คดีนี้ญาติผู้เสียชีวิตแจ้งขอความช่วยเหลือมากับชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบ ภ. 2 อยากให้จับกุมคนร้ายมารับโทษตามกฎหมายในสิ่งที่กระทำความผิด โดยหลบหนีมานานมากและคดีใกล้หมดอายุความ เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับผู้เสียชีวิตและญาติ ตามนโยบายของ พล. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ. ตร. และ พล. ท. ธิติ แสงสว่าง ผบช. 2
- ทรง ผี
- ซุ้มมือปืนแทนไท บริการ มือปืนรับจ้าง นักเลงรับจ้าง ออนไลน์
- การ์ตูน
- ดิว อริสรา ส่งน้องหมา 2 ตัว เข้าโรงเรียน ค่าเทอมไม่ธรรมดา เสียหายหลักแสน
ทรง ผี
- ซุ้มมือปืนแทนไท บริการ มือปืนรับจ้าง นักเลงรับจ้าง ออนไลน์
- ตร. คุมตัวหลานนักการเมืองท้องถิ่นบุกกระทืบรุ่นน้องในบ้าน อ้างโมโหอีกฝ่ายไม่ไปทำงาน
- รับจ้างกระทืบคน กทม โดย นักเลง รับจ้าง กระทืบ คน - mupuen.dev
- รับ กระทืบ คน ทรง ผี
ซุ้มมือปืนแทนไท บริการ มือปืนรับจ้าง นักเลงรับจ้าง ออนไลน์
การ์ตูน
ท้องที่เฝ้าติดตาม เมื่อครบกำหนดกักตัวจึงจะนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมาย และเมื่อครบกำหนดกักตัวเมื่อวานนี้ 12 ม. วันนี้ทาง ตร. ก็ได้ไปรับตัวผู้ต้องหามาทำแผนและแจ้งข้อหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายทันที ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจตามกระบวนการขั้นตอนไม่ได้ล่าช้า ตามที่มีการนำเสนอข่าวแต่อย่างใด และยืนยันว่าตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายไม่เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด อย่างไรก็ตาม หากผู้เสียหายไปให้ข้อมูลที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือมีการนำเสนอข่าวที่บิดเบือนไปจากข้อมูลเท็จจริง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จำเป็นจะต้องดำเนินการตามกฎหมายเช่นกัน
ดิว อริสรา ส่งน้องหมา 2 ตัว เข้าโรงเรียน ค่าเทอมไม่ธรรมดา เสียหายหลักแสน
เอ อายุ 13 ปี ถามหาเงินคืนและได้มีปากเสียงกันกับนางรุ่งอรุณ และได้มีการอ้างว่าผู้เสียชีวิตจะทำร้ายร่างกายนายรุ่งอรุณ จึงทำให้นายศร โกรธโมโหเป็นอย่างมาก เหตุเนื่องจากจะทำร้ายร่างกายผู้หญิงจึงได้เกิดเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทกันเกิดขึ้นตามคลิปวิดีโอดังกล่าว นายพงศกร ระบุว่า นายศรเป็นคนรักเพื่อนฝูง เป็นคนนิสัยดี และไม่ชอบให้คนทำร้ายร่ายกายผู้หญิง จึงเป็นเหตุให้ นายศรโมโหและเกิดเหตุการณ์ทะเลาะวิวาททำร่ายร่างกายจนทำให้ผู้ตายเสียชีวิต ที่ สน. คันนายาว ถนนคู้บอน แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กรุงเทพฯ พนักงานสอบสวน สน. คันนายาว ได้สอบสวนผู้ก่อเหตุ ด. เอ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี และนายศร อายุ 38 ปี ชาวลาว ที่รุมทำร้ายร่างกาย นายจีด ขุนสันเทียะ อายุ 49 ปี ผู้เสียชีวิต ก่อนนำตัว ด. เอ เดินทางไปยังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง มีนบุรี ต่อไป โดยในเวลา 14. 40 น. ภายหลังจากพนักงานสอบสวนสอบสวน ดญ. เอ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี ผู้ก่อเหตุ เสร็จสิ้น เจ้าตัวเปิดเผยว่า ตัวเองถูกนายศรบังคับให้ทำร้ายร่างกายนายจีด ผู้เสียชีวิต ยืนยันว่าตัวเองไม่ได้ตั้งใจทำ ทางด้านนายศรบอกกับตนว่าให้กระทืบนายจีด เพราะเคยดื่มเหล้าและเคยมีปัญหามีเรื่องทะเลาะกันมาก่อนหน้านี้ ซึ่งเรื่องของโทรศัพท์ที่ได้มีการอ้างว่าถูกขโมยไปนั้น ตนหาโทรศัพท์ไม่เจอจริง ๆ และคาดว่าผู้ตายขโมยไป ยอมรับรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป ตนนับถือเขาเปรียบเสมือนลุง เหมือนคนในครอบครัว รู้จักกับผู้ตายมานานกว่า 4 ปีแล้ว และนั่งดื่มสังสรรค์กันบ่อยครั้ง ที่ ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ครอบครัว ด.
ชลบุรี ยืนยันว่า ไม่ได้มีเจตนาจะหลบหนี ตามที่เป็นข่าว แต่พอไปถึงต้องกลายเป็นผู้เสี่ยงสูงเนื่องจากแม่ของตนติด covid จึงต้องกักตัวตามมาตรการสาธารณสุข และพอครบการกักตัวเมื่อวานนี้ (12 ม. 65) ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปรับตัวมาจากจังหวัดชลบุรี ตนทำผิดก็ยอมรับผิดยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับบุคคลอื่นตามที่ปรากฎในข่าวว่ามีญาติ ซึ่งนักการเมืองท้องถิ่นไปข่มขู่ให้ถอนแจ้งความ ขณะที่ ผู้กำกับการ สภ. บ้านกรวด ก็ได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับกรณีที่เป็นข่าว ว่าทางตำรวจไม่ได้รับแจ้งความนั้น ข้อเท็จจริงแล้วคือเหตุเกิดช่วงเช้าแล้วผู้เสียหายมาแจ้งความตอนเย็น ทางตำรวจชุดสืบก็ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุแต่ไม่เจอตัวผู้ต้องหา และไม่ใช่เหตุซึ่งหน้า จึงต้องดำเนินการตามขั้นตอนโดยการสืบสวนรวบรวมหลักฐาน และสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง จากนั้นพนักงานสอบสวนก็ได้ออกหมายเรียกครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 27 ธ. 2564 ได้ส่งหมายเรียกและแจ้งบันทึกว่าไม่พบผู้ต้องหา จากนั้นวันที่ 3 ม. 2565 ได้ออกหมายเรียกครั้งที่ 2 ไปส่งหมายเรียกแต่ก็ไม่พบตัวผู้ต้องหาอยู่ที่บ้าน กระทั่งวันที่ 6 ม. ชุดสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหา ได้ไปหามารดาที่ จ. ชลบุรี และทราบว่ามารดาผู้ต้องหาติดโควิด ผู้ต้องหาจึงเป็นผู้มีความเสี่ยงสูงต้องกักตัวตามมาตรการ ซึ่งระหว่างกักตัวก็ได้ประสาน ตร.