นนท์ปิดโรงพยาบาลบางกรวย เพื่อรับผู้ป่วยโควิด-19 ส่วนโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ปรับลดการบริการ ให้ผู้ป่วยเก่าโทรเพื่อขอรับยาทางไปรษณีย์ เมื่อเวลา 12. 00 น. วันที่ 24 เมษายน ศูนย์ปฏิบัติการโควิด-19 จังหวัดนนทบุรี แจ้งว่า โรงพยาบาลบางกรวย ปิดตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 2564 เพื่อรับผู้ป่วยโควิดที่มีอาการปานกลาง ส่วนโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ปรับลดการบริการ เหลือเท่าที่จำเป็น โรงพยาบาลบางกรวยประกาศว่า ปิดโรงพยาบาลเพื่อรองรับผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระดับรุนแรงปานกลาง ตั้งแต่วันที่ 26 เม. ย. 2564 เป็นต้นไป หรือจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย งดบริการการตรวจรักษาโรคทั่วไป และอุบัติเหตุฉุกเฉินทุกกรณี ตรวจโรคทั่วไปสามารถรับบริการ รพ. สต. บางกรวย วัดจันทร์ รพ. บางขุนกอง เปิดให้บริการเวลา 08. 00-16. 00 น.
มรุต จิรเศรษฐสิริ สาธารณสุขนิเทศก์เขตสุขภาพที่ 4 กล่าวว่า ในการขยายบริการรองรับความเจริญของจังหวัดนนทบุรี ขณะนี้ทั้งจังหวัดมีจำนวนเตียงรับผู้ป่วย 600 เตียง ไม่เพียงพอตามมาตรฐานที่ควรมีอย่างน้อย 1, 200 เตียง จึงได้พัฒนาศักยภาพโรงพยาบาลชุมชน 30 เตียง จำนวน 4 แห่ง จากทั้งหมด 6 แห่ง ได้แก่ 1. รพ. บางใหญ่ขยายเพิ่มเป็น 300 เตียง ขณะนี้ อยู่ระหว่างการก่อสร้างอาคารผู้ป่วย 3 หลัง 2. บางบัวทองเพิ่มเป็น 200 เตียง และสร้างรพ. บางบัวทองสาขา 2 เป็นโรงพยาบาลขนาด 30 เตียงเพิ่มอีก 1 แห่งรองรับหมู่บ้านจัดสรรซึ่งมีหนาแน่นในเขตนี้ 3. บางกรวยขยายเป็น 90 เตียง และสร้างรพ. บางกรวย 2 ให้บริการตรวจรักษาผู้ป่วยที่จำเป็นต้องพบแพทย์เฉพาะทาง นอกโรงพยาบาลศูนย์ หรือเรียกว่าซุปเปอร์โอพีดี เป็นบริการรูปแบบใหม่แห่งแรกของประเทศ และ4. ปากเกร็ดซึ่งมีพื้นที่คับแคบ ได้สร้างรพ. ปากเกร็ดสาขา 2 ห่างออกไปประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นรพ. ขนาด 60 เตียง จะทยอยแล้วเสร็จช่วงปี 2559- 2561 นอกจากนี้ ในส่วนของภาคบริการได้กระจายแพทย์ทั่วไป ทันตแพทย์ ลงไปให้บริการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ส่วนรพ. พระนั่งเกล้าซึ่งเป็นโรงพยาบาลศูนย์มี 465 เตียง ขณะนี้มีผู้ป่วยใช้บริการจำนวนมาก ได้วางแผนเพิ่มเตียงให้ได้ 700 เตียงในอีก 1 ปี และกระจายแพทย์เฉพาะทางบางสาขา เช่น จักษุแพทย์ ไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาลชุมชน พบว่าได้ผลดี การบริหารในรูปแบบของเขตสุขภาพจะทำให้รู้ปัญหาและความต้องการในการวางแผนพัฒนาระบบบริการในอนาคตที่ควรจะเป็น รวมทั้งบุคลากรเกิดความคุ้นเคยและเต็มใจช่วยเหลือกันมากขึ้น ประชาชนได้รับการดูแลที่มีมาตรฐานเดียวกัน